SParms | ผลกระทบจากแสงแดดต่อนักกีฬา

แล้วนักกีฬาของเราล่ะ?

นักกีฬามักจะฝึกฝน 2-3 ชั่วโมงต่อวันโดยได้รับการปกป้องจากเสื้อแขนยาวเพียงเล็กน้อยและเป็นกลุ่มที่ได้รับความเสี่ยงต่อความเสียหายจากแดดมากที่สุด

การสัมผัสรังสี UV มากเกินไปนั้นเกิดขึ้นได้โดยเฉพาะจากกีฬา เช่น กอล์ฟ วิ่ง ปั่นจักรยาน ไตรกีฬา และกิจกรรมกลางแจ้งอื่นๆ [1] ความตระหนักถึงเรื่องความเสียหายจากแดดและการป้องกันแดดโดยรวมนั้นดูเหมือนจะเป็นที่เข้าใจกันโดยดี แต่อย่างไรก็ตาม แนวทางในการปฏิบัติจริงเพื่อการปกป้องผิวจากแสงแดดอันที่จริงแล้วมักไม่ค่อยเพียงพอ [2]

การได้รับแสงแดดมากเกินไปเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญที่สุดสำหรับมะเร็งผิวหนังหลายชนิด ซึ่งรวมถึงมะเร็งเบเซลเซลล์ มะเร็งสเควมัสเซลล์สเควมัสเซลล์ และมะเร็งเมลาโนมา [3]

มะเร็งเมลาโนมานั้นถูกค้นพบเพิ่มมากขึ้น [4].

เช่นเดียวกับการได้รับแสงแดดกลางแจ้งอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มที่สังคมนิยมการนอนอาบแดดหรือใช้ตู้อบผิวแทนทำให้เกิดปัญหาผิวหนังมากขึ้น และนักกีฬาอาจมีความรู้สึกกดดันที่จะต้องปฏิบัติตามกระแสความนิยมของสังคม นักกีฬาหลายท่านลงแข่งขันด้วยการสวมใส่เสื้อผ้าแบบไม่มิดชิด เพื่อเป็นการตอกย้ำความมั่นใจในรูปลักษณ์ของพวกเขา 'Golden Glow' หรือผิวโกล์วสีแทนมักเป็นที่นิยมเมื่อเทียบกับผิวสีอ่อนในเวลาที่เรานึกถึง 'ลุคนักกีฬา'

ผู้ปฏิบัติงานที่รับผิดชอบด้านสุขภาพของนักกีฬาเหล่านี้พยายามผลักดันนโยบายความปลอดภัยจากแสงแดด บางทีเราในฐานะสังคมสามารถรวมกำลังผลักดันคำแนะนำในการป้องกันแดดอย่างจริงจังมากขึ้นได้ด้วยเช่นกัน

7 เคล็ดลับการป้องกันแดดสำหรับนักกีฬา:

1) ใช้ครีมกันแดดเสมอเมื่อออกกลางแจ้งระหว่างเวลา 11.00 น. – 15.00 น.

2) รู้จักผิวของคุณ – ผิวประเภท 1 มีแนวโน้มที่จะถูกเผาไหม้มากกว่าผิวประเภท 6 โดยอาการผิวหนังอักเสบเนื่องจากแดดจะเพิ่มความเสี่ยงต่อความเสียหายจากแสงแดดและมะเร็งผิวหนังในภายหลัง

3) ศึกษาเวลาการถูกเผาไหม้ของผิวคุณ

4) สวมหมวกและเสื้อผ้าแขนยาวเสมอ และสวมปลอกแขนกันแดดของ SParms หากคุณรักการเล่นกีฬา

5) ควรระมัดระวังเป็นพิเศษเมื่อต้องการออกกำลังกายกลางแจ้งใกล้น้ำหรือหิมะเนื่องจากแสงสะท้อนอาจทำให้ผิวถูกเผาไหม้เร็วขึ้น

6) รู้จักไฝของคุณ ตรวจสอบด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำ

7) ศึกษาประวัติคนในครอบครัวของคุณ เพราะมะเร็งผิวหนังมีองค์ประกอบทางพันธุกรรมที่แข็งแกร่ง
อ้างอิง

[1] Moehrle M. กีฬากลางแจ้งและมะเร็งผิวหนัง. คลีนิก เดอร์มาทอล 2008 ม.ค.-ก.พ. 26(1):12-5.
[2] Cohen PH, Tsai H, Puffer JC. พฤติกรรมการป้องกันแสงแดดของนักกีฬาระดับมัธยมและระดับมหาวิทยาลัยในลอสแองเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย คลินิกทางการแพทย์ เจ สปอร์ต 2549 พฤษภาคม;16(3):253-60.
[3] Stenback F. การบาดเจ็บของเซลล์และการเพิ่มจำนวนเซลล์ในการก่อมะเร็งผิวหนังด้วยแสง UV เนื้องอกวิทยา 2518;32(2):61-75
[4] เข้าถึงได้จาก http://www.cancerresearchuk.org/ เมื่อ 22/08/2555